ชื่อพรรณไม้ (ท้องถิ่น) : จำปี (Central)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Magnolia x alba (DC.) Figlar
ชื่อพ้อง : Michelia x alba DC., M. x longifolia Blume
ชื่อสามัญ : White champak
วงศ์ : Magnoliaceae
ตำแหน่งที่พบ (ระบุพิกัด GPS) : ละติจูด 13.818968 ˚N ลองจิจูด 100.040893˚E
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะวิสัย (habit) : ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ
ลำต้น : ลำต้นสูง 8-15 เมตร เปลือกต้นเรียบและหนา มีสีเทา แตกกิ่งในระดับสูง ไม่พบน้ำยาง
ใบ : ใบเดี่ยว การเรียงตัวของใบเป็นแบบเรียงเวียน ใบรูปรีหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ขนาดใบกว้าง 5-10 ซม.ยาว 10-35 ซม.ฐานหรือโคนใบเป็นรูปลิ่ม ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบหนา มีขนปกคลุมเล็กน้อยบริเวณด้านล่าง เส้นใบย่อยเป็นแบบร่างแห ก้านใบยาว 1.5-5 ซม
ดอก : ดอกเดี่ยว สีขาวนวล ออกตามซอกใบมีกลิ่นหอม กลีบรวมมีสีขาว ไม่เชื่อมติดกัน จำนวน 10-12 กลีบ แต่ละกลีบมีลักษณะคล้ายกันและหนา กลีบชั้นนอกประมาณ 4 กลีบ รูปใบหอก ขนาดกว้าง 0.5-1 ซม. ยาว 3-5.5 ซม. กลีบชั้นในจะแคบและสั้นกว่าชั้นนอก
เกสรตัวผู้ : จำนวนมาก ก้านชูอับเรณูยาว 1-1.5 มม.
เกสรตัวเมีย : รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ แยกจากกัน แต่ละรังไข่มี 1 ช่อง มีออวุล 1-6 ออวุล ก้านเกสรตัวเมียสั้นมาก ยอดเกสรตัวเมียเป็นสันโค้ง
ผล : ผลกลุ่ม มี 2-8 ผล ไม่มีก้านผลย่อย ผลย่อยกลมถึงรี เปลือกหนา ผลไม่เรียบเนียน เมื่อผลอ่อนจะมีสีเขียว และจะมีสีแดงเมื่อสุกจัด ผลแห้งแล้วแตกเป็นแนวเดียว
เมล็ด : เมล็ดกลมมีประมาณ 1-4 เมล็ด ส่วนใหญ่ไม่ติดผล สีน้ำตาล
ฤดูการออกดอกและติดผล : ออกดอกตลอดปี แต่ไม่ค่อยติดผล
เขตการกระจายพันธุ์ : สันนิษฐานว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากจีนตอนใต้ ในประเทศไทยปลูกได้ทั่วไปทั่วทุกภาค และนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
การใช้ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ ใบ ดอก สามารถนำมาทำเป็นมาใช้รักษาอาการไอ บำรุงหัวใจได้
ภาพดอก จากเว็บไซต์สารานุกรมพืช สำนักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช http://www.dnp.go.th/botany/ โดยสุคนธ์ทิพย์ ศิริมงคล