ชื่อพรรณไม้ (ท้องถิ่น) : ประดู่บ้าน pradu ban, ประดู่กิ่งอ่อน pradu king on, ประดู่ลาย pradu lai (Central); ดู่บ้าน du ban (Northern); สะโน sa-no (Malay-Narathiwat)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pterocarpus indicus Willd.
ชื่อพ้อง : Pterocarpus indicus R. Vig.
ชื่อสามัญ : Angsana.
วงศ์ : Fabaceae
ตำแหน่งที่พบ (ระบุพิกัด GPS) :
ละติจูด 13.819714˚N ลองจิจูด 100.041602˚E
ละติจูด 13.819568˚N ลองจิจูด 100.0409770˚E
ละติจูด 13.820119 °N ลองจิจูด 100.040158 °E
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะวิสัย (habit) : ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ
ลำต้น : ลำต้นสูง 15-30 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาล แตกเป็นร่องลึก พบน้ำยางจำนวนมาก
ใบ : ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ ส่วนใบย่อยมีการเรียงตัวแบบสลับ ลักษณะของใบรูปไข่ถึงรูปขนาน ขอบใบเรียบ โคนใบมนหรือค่อนข้างแหลม ปลายใบแหลม ขนาดของใบกว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 4-13 เซนติเมตร มีขนสั้นๆปกคลุมบริเวณด้านท้องใบมากกว่าด้านหลังใบ ใบแก่มีสีเขียวเข้ม
ดอก : ดอกช่อแบบช่อกระจะ ดอกมีสีเหลือง ช่อดอกมีขนาดใหญ่
ลักษณะกลีบเลี้ยง : มี 5 กลีบ เชื่อมติดกันคล้ายถ้วยสีเขียว
ลักษณะกลีบดอก : มี 5 กลีบ ลักษณะกลีบเป็นรูปผีเสื้อ กลีบดอกมีสีเหลือง ขอบกลีบดอกมีลักษณะเป็นคลื่น
เกสรตัวผู้ : มี 10 อัน ก้านชูอับเรณูเชื่อมติดกัน เป็น 2-3 กลุ่ม
เกสรตัวเมีย : มีเพียง 1 อัน
ผล : ผลแบบ samaroid เมื่อผลแห้งแล้วไม่แตก ผลสดมีสีเขียวอ่อน ผลแก่จะมีสีน้ำตาล ขอบผลมีลักษณะคล้ายปีก อาศัยลมช่วยในการกระจายพันธุ์ พบขนละเอียดปกคลุม
เมล็ด : มี 1 เมล็ด ลักษณะเป็นรูปไต สีของเมล็ดเป็นสีน้ำตาล
ฤดูการออกดอกและติดผล : ดอกจะออกช่วงมีนาคม-พฤษภาคม
เขตการกระจายพันธุ์ : พบตามป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังในทุกภาค รวมถึงมีการปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงาทั่วไป
การใช้ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ ไม้ถนน ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีสีแดงอมเหลือง มีลวดลายสวยงาม ทนทาน นิยมนำมาทำพื้นบ้าน เสาบ้าน เกวียน เครื่องเรือนและด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ เปลือกและแก่นให้สีน้ำตาลใช้ย้อมผ้าและให้น้ำฝาดสำหรับฟอกหนัง
คุณค่าทางเภสัชพฤกษศาสตร์ ดังนี้
– ประดู่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย แก้อาการปวด ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว ยับยั้งการแบ่งเซลล์ ยับยั้งเอนไซม์ Ornithine decarboxylase และยับยั้ง Plasmin ออกฤทธิ์คล้ายแลคติน ทำให้เม็ดเลือดแดงเกาะกลุ่มกัน